ภาวะสมองขาดเลือด หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โรคหลอดเลือดสมอง” (Stroke) เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่เกิดขึ้นเมื่อเลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมองได้อย่างเพียงพอ ทำให้เซลล์สมองเริ่มตายลงภายในไม่กี่นาที ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของร่างกายในส่วนที่เซลล์สมองส่วนนั้นควบคุม
ประเภทของภาวะสมองขาดเลือด
ภาวะนี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก:
1. สมองขาดเลือดจากหลอดเลือดสมองอุดตัน (Ischemic Stroke)เป็นประเภทที่พบมากที่สุด คิดเป็นประมาณ 80-85% ของผู้ป่วยสโตรกทั้งหมด เกิดจากหลอดเลือดในสมองเกิดการอุดตันจากลิ่มเลือดหรือไขมัน ทำให้เลือดไม่สามารถไหลผ่านไปเลี้ยงสมองได้
สาเหตุ : มักเกิดจากโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง, เบาหวาน, ภาวะไขมันในเลือดสูง, และโรคหัวใจ
2. สมองขาดเลือดจากหลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic Stroke) เป็นประเภทที่อันตรายและมีความรุนแรงสูงกว่า เกิดจากการที่หลอดเลือดในสมองฉีกขาด ทำให้มีเลือดออกไปกดทับเนื้อสมองและทำลายเซลล์สมองในบริเวณนั้น
สาเหตุ : มักเกิดจากโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้, ภาวะหลอดเลือดผิดปกติ, หรือการใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดมากเกินไป
อาการสโตรกที่สังเกตได้
วิธีที่ง่ายที่สุดในการสังเกตอาการสโตรกคือการใช้หลักการ FAST คือ
F (Face drooping) : ใบหน้าตก หรือมุมปากข้างใดข้างหนึ่งตกลงมาผิดปกติ
A (Arm weakness) : แขนอ่อนแรง หรือไม่สามารถยกแขนขึ้นได้พร้อมกันทั้งสองข้าง
S (Speech difficulty) : พูดลำบาก หรือพูดไม่ชัด พูดไม่รู้เรื่อง หรือไม่สามารถพูดได้
T (Time to call emergency) : รีบโทรศัพท์แจ้งเหตุฉุกเฉินทันที เพราะทุกนาทีมีความสำคัญมาก ยิ่งรักษาเร็ว โอกาสที่สมองจะเสียหายถาวรก็จะลดลง
อาการอื่นๆ ที่อาจพบร่วมด้วย
- มองเห็นภาพซ้อนหรือตาพร่ามัว
- เวียนศีรษะอย่างรุนแรง หรือทรงตัวไม่ได้
- ปวดศีรษะอย่างรุนแรงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ช่วงอายุและความเสี่ยง
อาการสโตรกสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกช่วงอายุ แต่ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นตามช่วงอายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ อายุ 55 ปีขึ้นไป
- อายุ 55 ปีขึ้นไป : ถือเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด เนื่องจากหลอดเลือดจะเริ่มเสื่อมสภาพและเกิดการแข็งตัวขึ้นตามธรรมชาติ
- อายุ 20-50 ปี : ในปัจจุบันพบผู้ป่วยสโตรกในวัยหนุ่มสาวมากขึ้น ซึ่งมักจะเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การสูบบุหรี่จัด, การดื่มแอลกอฮอล์, การไม่ออกกำลังกาย, และความเครียดสะสม
- เด็กและทารก : แม้จะพบได้น้อย แต่สโตรกก็สามารถเกิดขึ้นได้ในเด็กเล็ก โดยมักเกิดจากสาเหตุทางพันธุกรรมหรือโรคประจำตัวตั้งแต่กำเนิด
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ
นอกเหนือจากช่วงอายุแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดสโตรกด้วย เช่น :
- โรคความดันโลหิตสูง
- โรคเบาหวาน
- โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- ภาวะไขมันในเลือดสูง
- การสูบบุหรี่
- โรคอ้วน
การรักษาสุขภาพให้ดีและควบคุมปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้จะช่วยลดโอกาสในการเกิดสโตรกได้ และไม่ว่าจะเป็นสโตรกประเภทใด การรักษาอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อลดความเสียหายของสมองให้น้อยที่สุด หากพบผู้ที่มีอาการเหล่านี้ ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที
สายด่วนพยาบาลฉุกเฉิน คือ 1669 (สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ) โดยเป็นเบอร์ฟรี 24 ชั่วโมงสำหรับกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์ เมื่อโทรออก ให้ตั้งสติ แจ้งข้อมูลว่าเกิดอะไรขึ้น สถานที่เกิดเหตุที่ชัดเจน รวมถึงอาการ เพศ และอายุของผู้ป่วย เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถประสานงานทีมกู้ชีพมารับและช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น